The Almanack of Naval Ravikant คู่มือสร้างความมั่งคั่งและความสุขในโลกที่ไม่เป็นใจ ฉบับนายนาวาล
สรุปการรีวิวหนังสือ The Almanack of Naval Ravikant
คู่มือสร้างความมั่งคั่งและความสุขในโลกที่ไม่เป็นใจ ฉบับนายนาวาล
หนังสือเล่มแรกที่อ่านจบในปี 2025 เชื่อเลยว่าเป็นหนังสือที่จะกลายเป็นตำนานในอนาคตแน่นอน เป็นการรวมมุมมอง ความคิด ปรัชญา
ของ “นาวาล รวีกันต์” นักลงทุนระดับตำนานแห่ง Sillicon Valley
.
และนี่ข้อ 50 ข้อคิดที่ผมได้จากหนังสือเล่มนี้ ปีนี้เอาไปปรับใช้แน่นอน
.
1. การศึกษาเปลี่ยนชีวิต Naval บอกว่า การได้เรียน โรงเรียนมัธยม Stuyvesant เหมือนถูกหวย เพราะเปลี่ยนจากจากชีวิต “ผู้อพยพที่พยายามดิ้นรนเอาตัวรอด” ก้าวจากชนชั้นแรงงานสู่พนักงานออฟฟิศ
.
2. เราไม่สามารถสอนอะไรคนได้จริงๆ หรอก ทำได้แค่สร้างแรงบันดาลใจและชี้ประเด็นบางอย่างที่ช่วยให้จำได้ง่ายขึ้น และให้คนฟังค้นพบและเข้าใจมันด้วยตัวเอง
.
3. วิธีสร้างความมั่งคั่งโดยไม่ต้องพึ่งโชค
[1] ทำงานหนักให้ถูกที่ถูกทาง
[2] ความมั่งคั่งคือ การมีทรัพย์สินที่สร้างรายได้ให้คุณแม้ตอนนอนหลับ
[3] เงินคือสื่อกลางที่ใช้ถ่ายโอนความมั่งคั่ง เหมือนเครดิตในสังคมที่ใช้ซื้อเวลาและทรัพยากรของคนอื่นได้
.
4. อยากรวยจริงต้องมอบสิ่งที่คนจำนวนมากต้องการซึ่งพวกเค้าไม่รู้ว่าจะได้มันมายังไง
.
5. ทำงานกับคนที่มีวิสัยทัศน์และเป้าหมายระยะยาว “แน่นอนว่าอยู่ใกล้คนเก่งเรายิ่งเก่งตาม” แต่ถ้าเลือกหุ้นส่วนต้องเน้น ”ความซื่อสัตย์“ เป็นอันดับ 1 ฉลาดและมีพลัง
.
6. ทำตัวเองให้เป็น Product สร้างคุณค่าในสังคม ทำให้มีคนต้องการ มีส่วนประกอบสองอย่าง
[1] ตัวเรา ความเป็นตัวของตัวเองและความรับผิดชอบ
[2] การทำให้เป็น Product ด้วยความรู้เฉพาะทาง
.
7. ทางลัดรวยเร็วไม่มีอยู่จริง คนที่บอกว่ามีเค้าแค่อยากได้เงินจากเรา เราอาจทำให้เค้ารวยเร็วแทน 555+
.
8. คนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าจะหาเงินจาก internet ยังไง ทั้งที่มันทำให้เราเจอคนที่มีความสนใจและชอบเหมือนกับเราได้ทั่วโลก ถ้าเราเก่งที่สุดในเรื่องใดเรื่องนึงและสามารถทำให้คนเข้าถึงง่าย Scale up ได้ ความมั่งคั่งจะหนีไปไหนได้
.
9. ข่าวดีคือทุกคนเก่งที่สุดในการเป็นตัวของตัวเองเสมอ ความรู้ + ประสบการณ์ + แนวคิด + มุมมอง ทำให้เรา Unique กว่าคนอื่นได้ง่ายๆ Naval บอกว่า “จงหนีจากการแข่งขันด้วยการเป็นตัวของตัวเอง” โหดจัด
.
10. การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ตลอดชีวิต คือ ทักษะสำคัญที่สุดในการสร้างความมั่งคั่ง วิธีการแบบเดิมคือเรียนจบมหาลัย แล้วทำงานอีก 30 ปี แต่ยุคนี้เราต้องเรียนรู้อาชีพใหม่ให้ได้ภายใน 9 เดือน และแน่นอนว่าสุเท้ายมันก็จะเก่าไปใน 3-4 ปี เหมือน Data Analyst ตอนนี้ 555+
.
11. ถ้าเราสร้าง Product ที่เป็นตัวเองจริงๆ จะไม่มีใครเลียนแบบเราได้ 100% สุดท้ายเราจะสร้าง Brand Positioning ในตลาดอย่างมั่นคง
.
12. รู้กว้าง แต่รู้แค่ผิวเผินทุกเรื่อง น่าจะรอดยาก
ต้องรู้ลึกและเชี่ยวชาญอย่างน้อย 2 เรื่อง ถึงเอาไปใช้ประโยชน์ต่อได้จริง
.
13. การทบต้นของ Relationship โคตรสำคัญไม่แพ้เรื่องการทบต้นของเงิน
CEO บ.ใหญ่ๆ ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งได้เกิดจากการสะสม Relationship กับผู้คนและผลงานที่น่าเชื่อถือแบบทบต้นผ่านการทำงานอย่างยาวนาน (สะสม Trust)
.
14. การรักษาชื่อเสียง พาให้เราไปได้ไกลกว่าคนเก่งที่ไม่รักษาชื่อเสียง
Naval บอกว่าอาจมากกว่าเป็น 1,000 หรือ 10,000 เท่าเลยทีเดียว
.
15. ความพยายาม 99% มักประสบความล้มเหลว แต่ความล้มเหลวนั้นคือประสบการณ์
เช่น การจีบสาวที่ล้มเหลวหลายๆ ครั้ง ทำให้เราโตขึ้นและเรียนรู้การจีบสาวที่ถูกต้อง บางครั้งการตื้อเท่านั้นที่ครองโลกก็ไม่เป็นจริง 5555+
.
16. คนเราต้องรู้ว่าควรพอ และล้มเลิกตรงไหน
ข้อนี้หนังสือ Quit ที่สำนักพิมพ์ Live Rich ของพี่หนุ่มรับมาแปลก็พูดเหมือนกัน
เช่น ถ้าคบใครสักคนแล้วรู้สึกว่า ไม่ลงเอยด้วยการสร้างครอบครัวด้วยกัน ก็ควรรีบเลิกซะ
.
17. การทำให้คนอื่นเชื่อใจ บางครั้งก็อาจต้องเอาชื่อตัวเองเป็นประกัน
เอาจริงข้อนี้ตัวเองทำบ่อย แต่เป็นการ Refer คนเข้าไปทำงานในที่ต่างๆ Recruiter สุดๆ บางครั้งก็ล้มเหลวและทำเราเข็ดอยู่เหมือนกัน 555+
.
18. แต่ Naval บอกว่าคนที่กล้าเผชิญความล้มเหลวต่อหน้าคนอื่นได้ มักได้รับโอกาสดีๆ มากขึ้น
.
19. ถ้าเราไม่ได้เป็นเจ้าของธุรกิจ รายได้ของเราจะถูกจำกัดด้วยเวลา และความสามารถ
ขนาดหมอกับทนายก็ยังต้องแลกเวลากับเงิน
พูดง่ายๆ คือ มัน Scale ไม่ได้
.
20. เราต้องมีหุ้นในบริษัทเราถึงจะรวยได้ เพราะมีโอกาสเติบโตไปพร้อมบริษัท
และจะไปถึงจุดนั้นได้ต้องทำงานและพัฒนาตัวเองจนบริษัทมองเห็น
หรืออีกทางนึงคือการลงทุนในตลาดหุ้น
Key คือ การเป็นเจ้าของกิจการสักวิธีนึง
.
21. เราควรพัฒนาทักษะที่คนส่วนใหญ่ยังไม่มี เพราะถูกแทนที่ได้ยาก
Key คือ ต้องรู้วิธีทำในสิ่งที่คนอื่นยังไม่รู้และเป็นที่ต้องการในสังคม
.
22. Timing สำคัญมาก หลายครั้งเทคโนโลยีที่มาก่อนกาลก็ล้มตายไป ต้องรอจังหวะที่โลกต้องการทักษะนั้นพอดีก่อน ระหว่างนั้นเราควรรีบสร้างชื่อเสียงผ่านช่องทางต่างๆ และลองทำงานฟรีดูบ้างเพื่อสะสมประสบการณ์ เมื่อโอกาสมาถึงเราสามารถเปลี่ยนเป็นเงินได้ทันที
.
23. Naval บอกว่า แต้มต่อในการสร้างความสำเร็จมี 3 อย่าง
[1] แรงงาน
[2] เงินทุน
[3] Product ที่ทำซ้ำได้โดยไม่มีต้นทุนเพิ่ม
เช่น การเขียนหนังสือเล่มนี้ แทนที่การพูดสดๆ ให้คนหลักร้อยฟัง
ตอนนี้สามารถพูดกับคนนับล้านได้ผ่านหนังสือ
.
”การเอาเวลาของตัวเองไปทำงานให้กับคนอื่น ไม่ทำให้เรารวยขึ้นมาได้หรอกนะ“ ฟังแล้วเจ็บปวด 5555+
.
24. สิ่งที่เราต้องการในชีวิต คือ การได้ควบคุมเวลาของตัวเอง
อันนี้ Ali Abdaal ก็บอกไว้เหมือนกัน เพราะถ้าเรามีเวลาโฟกัสแค่งาน เราก็จะทำได้ดีและมากขึ้น
ไม่ต้องฝืนทำงานตอนที่เหนื่อยล้าตามตารางเวลาที่บริษัท Block ไว้
.
25. 2 ทักษะที่สำคัญสุดๆ ในยุคนี้คือ
[1] การขาย = การตลาด การสื่อสาร โน้มน้าว เป็นต้น
[2] การสร้าง Product
.
26. ทักษะการตัดสินใจที่ดีก็โคตรสำคัญ
โดยเฉพาะการตัดสินใจที่พาไปถึง Next Action และตรวจสอบผลลัพธ์ได้จริง
ยกตัวอย่างชัดๆ คือ ปู่ Warren Buffet ทุกคนไม่สนว่าเค้าทำอะไรบ้างในแต่ละวัน แค่เฝ้าติดตามการตัดสินใจของเค้า
.
27. คิดถึงค่าเวลาของตัวเองเสมอ ว่ามีราคาเท่าไหร่ต่อชั่วโมง อะไรที่่เราต้องทำแล้วจ้างคนอื่นให้ทำแทนได้ในราคาที่ถูกกว่า ก็ให้จ้างเลยหรือไม่ก็ไม่ต้องทำมัน แล้วเราเอาเวลาไปหาเงินดีกว่า
ประหยัดอย่างเดียวไม่ทำให้เรารวย (อันนี้ชอบมาก)
.
28. สำหรับคนรุ่นใหม่ ช่วงต้นของชีวิตควรตัดสินใจ 3 เรื่องสำคัญ
[1] เราจะอยู่ที่ไหน
[2] เราจะอยู่กับใคร
[3] เราจะทำงานอะไร
พยายามหาเวลาว่างให้ตัวเองให้คิด 3 เรื่องนี้ให้ได้
.
29. หาว่าตัวเองเก่งอะไร และใช้สิ่งนั้นช่วยเหลือคนอื่น แบ่งปันความรู้ให้คนอื่น
เมื่อเวลาผ่านไป “กฎแห่งการให้และการได้รับ” จะทำงานเอง
เราจะดึงดูดสิ่งดีๆ ที่เราเคยทำให้คนอื่นกลับมาหาตัวเองได้ในที่สุด
แต่ไม่ต้องตั้งตารอขนาดนั้นนะ ทำไปชิลๆ มีเพื่อนคนนึงชื่อ “ทอย” เคยบอกไว้ 5555+
.
30. Naval บอกว่ามี 4 วิธีในการเกษียณ
[1] มีเงินเก็บมากพอ แล้วให้เงินทำงานแทน
[2] ลดค่าใช้จ่ายให้เหลือ 0 แล้วไปบวชเป็นพระ
[3] ทำสิ่งที่รัก สนุกกับมันโดยไม่สนเรื่องเงิน
[4] เป็นตัวของตัวเอง + หาสิ่งที่ทำได้ดีกว่าคนอื่น ถ้าเรารักในการทำมันจริงๆ จะไม่มีใครแข่งกับเราได้
.
31. วิธีสร้างโชคให้ตัวเอง
[1] หวังให้โชคตามหาเราเจอ
[2] พยายามจากว่าจะเจอโชค
[3] เตรียมพร้อมและหูตาไวต่อโอกาสที่คนอื่นไม่เห็น
[4] พัฒนาตัวเองให้เก่งที่สุดในสิ่งที่ทำ
.
32. การสร้าง Connection ไม่จำเป็นขนาดนั้น เพราะการทำสิ่งนี้ก่อนเริ่มทำธุรกิจจริงเป็นการเสียเวลา
“จงเป็นคนสร้างสิ่งที่น่าสนใจและเป็นที่ต้องการ” แล้วคนที่ใช่จะตามหาคุณเอง
.
33. จงทำความดีต่อผู้อื่นไปเรื่อยๆ โดยไม่ต้องสนว่าทำไปเท่าไหร่แล้ว
เอาจริงๆ แค่ช่วยซื้อกาแฟให้เพื่อนก็ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีแล้ว
.
34. คนฉลาดที่สุดคือคนที่อธิบายเรื่องยากๆ ให้เด็กเข้าใจได้
ถ้ายังทำไม่ได้ แปลว่ายังไม่เข้าใจมันจริงๆ คนที่คิดได้อย่างเฉียบคมจะไม่เอาคำพูดคนดังมาอ้าง เพราะว่าตัวเองเข้าใจมันจริงๆ
.
35. สิ่งที่ขัดขวางเราจากความเป็นจริงมากที่สุดคือ ความคิดที่ว่าทุกอย่างควรจะเป็นแบบที่เราคิด
พูดง่ายๆ คือ ตัวเราเองนี่แหละที่ไม่ยอมรับความจริง
จะก้าวหน้าได้ก็ต่อเมื่อเริ่มต้นจากความจริง (Reality) เท่านั้น
.
36. เราต้องลด Ego ของตัวเองลง ลดความสำคัญของตัวเองในสมการต่างๆ
ยิ่งเราไม่ยึดติดกับผลลัพธ์ เรายิ่งยอมรับและเห็นความเป็นจริงได้ง่ายขึ้น
.
37. ให้เวลาว่างตัวเองได้คิดอย่างจริงจัง อย่าปล่อยให้ตัวเองยุ่งตลอดเวลา เพราะไอเดียดีๆ มักเกิดหลังจากที่เรารู้สึกเบื่อ ไม่ใช่ตอนที่เรากำลังยุ่ง ต้องแบ่งเวลาให้ตัวเองได้คิดด้วย (ปีนี้ต้องเอาบ้างแล้ว)
.
38. ตัวตนของ Ego ในตัวเราถูกสร้างขึ้นในช่วง 20 ปี แรกของชีวิต จากพ่อแม่ สังคม สิ่งแวดล้อมรอบตัว หลังจากนั้นอยู่ที่เราว่าจะเปลี่ยนโลกให้เป็นอย่างที่เราอยากให้เป็นได้ยังไง อย่าเชื่อคนอื่นมากเกินจนลืมตั้งคำถามพื้นฐานว่ามันจริงใช่มั้ย
.
39. ความทุกข์ทำให้เรายอมรับความจริงของโลกนี้มากขึ้นและเปลี่ยนแปลงตัวตนของเรา ทำให้บางครั้งเราค้นพบความสามารถใหม่ๆ โดยที่ไม่รู้ว่าเรามีมันมาก่อน
.
40. The obsacle is a way. เมื่อต้องเลือกระหว่าง 2 ตัวเลือกที่ดูดีพอๆ กัน
จงเลือกทางที่ยากกว่าในตอนแรก
เพราะผลตอบแทนที่ดีในชีวิต มักมาจากการอดทนกับความเหนื่อยยากในช่วงต้น
เช่น การออกกำลังกาย
.
41. อ่านสิ่งที่เรารัก จนกว่าเราจะรักในการอ่าน แค่อ่านสิ่งที่ชอบก็พอ Naval บอกว่า “ไม่อยากอ่านทุกอย่าง แต่อยากอ่านหนังสือดีๆ สัก 100 เล่ม วนไปวนมาก็พอ”
Key คือ เราต้องหาหนังสือที่เจ๋งๆ สำหรับตัวเราให้เจอ (เล่มนี้เป็น 1 ในนั้นของผมละ 555)
.
42. จำนวนหนังสือที่อ่านจบเป็นแค่ตัวเลขที่ใช้อวดกัน เพราะยิ่งรู้มากอาจทำให้เราอ่านหนังสือไม่จบ หาหนังสือแนวคิดใหม่ๆ อ่านเพื่อเข้าใจและเดาอนาคตได้ดีขึ้น
.
43. หนังสือเล่มไหนที่อยู่รอดมาได้ 2,000 ปี แสดงว่าถูก Proved แล้วจากนักอ่านมากมาย หลักการและแนวคิดในหนังสือเหล่านี้มีแนวโน้มว่าจะถูกต้องมากกว่า เราควรอ่าน First Principle มากกว่าแนวคิดที่ถูกแปลงสารมาแล้ว
.
44. คัมภีร์ “เต้าเต๋อจิง” บอกว่าทุกสิ่งในโลกมีคู่ตรงข้าม หรือพูดง่ายๆ คือ “ความสมดุล”
ในทุกการคิดบวกจะมีเมล็ดพันธุ์แห่งการคิดลบแอบแฝงอยู่เสมอ
เช่น ถ้าบอกว่าวันนี้มีความสุข แสดงว่าเมื่อวานหรือที่ผ่านมาอาจไม่มีความสุขเลย
.
45. Naval บอกว่าสำหรับตัวเค้า ความสุขคือการไม่ทุกข์ ไม่ปรารถนาสิ่งใด ไม่คิดถึงอดีตและอนาคตมากเกินไป แต่ยอมรับปัจจุบันและความจริงที่เกิดขึ้น (คมมาก 555+)
.
”ความสุขเกิดขึ้นเมื่อชีวิตไม่รู้สึกว่าขาดอะไร“
.
46. และยังเชื่อว่าตัวเราไม่ได้สำคัญอะไรมากมาย ถ้าเรามองว่าตัวเองสำคัญที่สุดในจักรวาล ก็จะคิดว่าทุกสิ่งรอบตัวควรเป็นไปอย่างที่เราอยากให้เป็น แต่ถ้ามันไม่เป็นแบบนั้นเราจะมองว่ามันผิดปกติ
.
47. ช่วงวัยรุ่น เรามีเวลา สุขภาพดี แต่ไม่มีเงิน
ช่วงวัยกลางคน เรามีเงิน สุขภาพดี แต่ไม่มีเวลา
วัยสูงอายุ เรามีเงิน มีเวลา แต่สุขภาพไม่ดีซะแล้ว ทุกจึงอยากหา 3 อย่างให้ได้พร้อมกัน
.
48. ขงจื๊อกล่าวไว้ว่า “คนเรามีสองชีวิต ชีวิตที่สองเริ่มต้นเมื่อเรารู้ตัวว่าเรามีชีวิตอยู่เพียงชีวิตเดียว”
.
49. เรามักคิดว่าถ้าแก้ปัญหาภายนอกได้หมดก็จะเกิดความสงบในใจ
แต่มันมีเยอะจนแก้ไม่หมด วิธีเดียวที่ทำให้เกิดความสงบได้ คือ เลิกมองว่าทุกอย่างเป็นปัญหา
.
50. สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตมากกว่าความสุข ครอบครัว การงาน คือ “สุขภาพของตัวเอง” เริ่มจากสุขภาพกาย สุขภาพจิต สุขภาพทางจิตวิญญาณ จากนั้นค่อยเป็นสุขภาพคนในครอบครัวและความเป็นอยู่ที่ดี
.
ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้ ใครชอบข้อไหน Comment บอกกันหน่อยน้า อยากคุยด้วย 5555+
.
https://www.facebook.com/yossiiz
Comments
Post a Comment